วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

Daily Direc 2010-01-08

Market Attitude: ไร้ปัจจัยหนุน / เคลื่อไหวแคบเหมือนเดิม
ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากปัจจัยไม่มีอะไรเด่นชัดเข้ามากระทบ และตลาดต่างประเทศมีทิศทางการเคลื่อนไหวคล้ายๆ กัน ตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ระดับที่ปิดก็ถือว่าสูงสุดในรอบ
15 เดือน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับที่ดีตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐบ้างหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานผู้ที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นเพียง 1,000 รายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ ปรับลงพียงเล็กน้อย หลังจากที่ขึ้นมาต่อเนื่อง โดยความกังวลเรื่องอุปสงค์จากจีนหลังธนาคารกลางจีนสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ของตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจีนพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวกว่านี้ในการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและต่อต้านภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าวานนี้ สำหรับปัจจัยในประเทศตอนนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมแนวโน้มตลาดหุ้นไทยน่าจะการเคลื่อนไหวแคบๆ เหมือนเดิมเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยหนุน ส่วนในทางเทคนิคและกลยุทธ์มองให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยยังไม่รีบเล่น ถ้าจะกลับเข้าไปเล่น เมื่อผ่านแนวต้าน 742 จุดเท่านั้น
กลยุทธ์การลงทุน
�� ระยะกลาง : ที่ลุ้นตอนผ่าน 720 จุด ยังถือต่อ
�� ระยะสั้น : ไม่รีบเล่น ยกเว้นถ้าผ่าน 742 จุด

Market Viewpoint:
ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดาวโจนส์ +33.18 จุด +0.31% ปิดที่ 10,606.86 ตอบรับรายงานยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกในสหรัฐ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้น จีอี หลังนักวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นในด้านบวก แต่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้น้ำมันดิบ – NYMEX -0.52 เหรียญ -0.63% ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์/บาร์เรลรับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปสงค์ในจีน และจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ภาวะอากาศหนาวจัดในซีกโลกเหนือช่วยจำกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมันสหรัฐ - รายงานประชุมเฟด แสดงความกังวลในเดือนที่แล้วว่าความช่วยเหลือที่น้อยลงจากรัฐบาลอาจส่งผลให้ภาคที่อยู่อาศัยยุติการฟื้นตัวจีน - ธ.กลางจีนส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหลังเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการเพิ่มยิลด์บอนด์ / จับตาตลาดอสังหาฯปีนี้หวังเลี่ยงภาวะฟองสบู่
สินเชื่อ - ธปท. คาดสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 53 จะเติบโตจากปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อKBANK - คาดสัดส่วน NPL ในไตรมาส 4/52 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
กลุ่ม PTT - เตรียมเจรจาเจ้าหนี้ ขอชะลอชำระหนี้ในโครงการที่มาบตาพุด
AMATA - เผยปี 52 ยอดขายที่ดินต่ำกว่า 300 ไร่, ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย /ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท
INOX - ประธาน"พอสโก"เผยใกล้ได้ข้อสรุปผลเจรจาเทคโอเวอร์"ไทยน๊อคซ์"

Market News
รายงานประชุมเฟดชี้เจ้าหน้าที่กังวลความเสี่ยงในตลาดที่อยู่อาศัย
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความกังวลในเดือนที่แล้วว่าความช่วยเหลือที่น้อยลงจากรัฐบาลอาจส่งผลให้ภาคที่อยู่อาศัยยุติการฟื้นตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนคาดว่า สหรัฐอาจจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการซื้อสินทรัพย์เพื่อช่วยพยุงภาคที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2009 เจ้าหน้าที่เฟดได้ตัดสินใจในช่วงท้ายว่าจะยังคงยึดมั่นกับกำหนดการเดิมที่ให้ยุตินโยบายซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ภายในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.2010 หลังจากมาตรการนี้ได้ช่วยกดดันอัตราดอกเบี้ยจำนองให้ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมที่ได้รับการเปิดเผยบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่อาจกลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง ถ้าหากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยหยุดชะงัก เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความกังวลอย่างต่อเนื่องเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐด้วย หลังจากสหรัฐผ่านพ้นวิกฤติการเงินที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0 % ในเดือนธ.ค. และส่งสัญญาณว่าเฟดตั้งใจจะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำมากต่อไปเป็นเวลานาน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง (Reuters)

ธ.กลางจีนส่งสัญญาณขึ้นดบ.หลังเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการเพิ่มยิลด์บอนด์
ธนาคารกลางของจีนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดวานนี้ด้วยการปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.2009 ซึ่งเป็นการคุมเข้มสภาพคล่อง หลังจากที่เมื่อวานนี้ทางการจีนระบุว่าจะควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อ ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนจำหน่ายตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือนในวันนี้โดยมีผลตอบแทนอยู่ที่ 1.3684 % เพิ่มขึ้น 0.0404 % จาก 1.3280 % เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ธนาคารกลางตรึงไว้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ การดำเนินการดังกล่าวสร้างความวิตกต่อตลาดว่า ธนาคารกลางอาจพร้อมที่จะใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดความร้อนแรงของการขยายตัวของเศรษฐกิจและ
จัดการกับเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ แนวโน้มดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมาก ขณะที่นักลงทุนวิตกว่า จุดยืนด้านนโยบายที่เข้มงวดขึ้นจากจีนอาจจะกระทบความต้องการเหล็กกล้า, ทองแดง และทรัพยากรอื่นๆที่จำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ (Reuters)

ธนาคารกลางจีนประกาศจับตาตลาดอสังหาฯปีนี้หวังเลี่ยงภาวะฟองสบู่
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ขณะที่จัดการกับคาดการณ์เงินเฟ้อ "เราควรจะสร้างเสถียรภาพให้กับระดับราคาและจัดการคาดการณ์เงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพ" ธนาคารกลางระบุ การให้ความสนใจของธนาคารกลางต่อราคาที่อยู่อาศัย เป็นการแสดงอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจของธนาคารกลางในการพิจารณาตลาดสินทรัพย์ในการกำหนดนโยบายการเงิน หลังการประชุมวางแผนสำหรับปี 2010 ธนาคารกลางจีนระบุว่าทางธนาคารกลางจะยังคงดูแลให้มีสินเชื่ออย่างเพียงพอในระบบการเงินและจะสนับสนุนให้ธนาคารต่างๆปล่อยเงินกู้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่บังคับใช้นโยบายสินเชื่ออย่างเข้มงวดในภาคที่อยู่อาศัย (Reuters)

ธปท.คาดสินเชื่อปี 53 โตกว่าปีก่อน หลังศก.ฟื้น-แบงก์แข่งมากขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 53 จะเติบโตจากปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ที่คาดว่าจะมีมากขึ้น นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่า ธปท. กล่าวว่า สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ยังคงมีอยู่มากพอสมควรและตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ยังคงทรงตัว ยังถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ มีความพร้อมเข้ามาแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อด้วย สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในเดือนพ.ย.52 ขยายตัวดีขึ้นแบบเดือนต่อเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยเดือนพ.ย.52 เทียบกับเดือนพ.ย.51 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.8% (Reuters)

พลังงานเล็งใช้เงินกองทุนน้ำมัน ลดผลกระทบราคาน้ำมันแพง,หนุนพลังงานทดแทน
กระทรวงพลังงาน มีแผนใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเข้าไปช่วยลดผลกระทบหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นมาก หลังล่าสุดราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าหนุนการใช้พลังงานทดแทนต่อเนื่อง (Reuters)

KBANK คาด NPL ใน Q4/52 ลดลงจาก Q3 หลังศก.ฟื้นตัว
ธ.กสิกรไทย(KBANK) คาดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในไตรมาส 4/52 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 3 หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นผู้บริหาร KBANK ระบุด้วยว่า ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการในมาบตาพุดประมาณ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะไม่มีปัญหา NPL เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ใช้ในการขยายธุรกิจ และเป็นลูกหนี้ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หากมีลูกหนี้มาขอเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ธนาคารก็พร้อมจะเจรจา แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากลูกหนี้รายใด (Reuters)

กลุ่ม PTT เตรียมเจรจาเจ้าหนี้ ขอชะลอชำระหนี้ในโครงการที่มาบตาพุด
บมจ.ปตท.(PTT) ระบุกลุ่มปตท.เตรียมเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อชะลอการชำระหนี้สำหรับโครงการในพื้นที่มาบตาพุดหลังบางโครงการในกลุ่มถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราว ตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ขณะที่ธ.กรุงไทย(KTB) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยกู้ พร้อมเจรจา หากกลุ่มปตท.ร้องขอ นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น (PTTAR) ในกลุ่ม PTT กล่าวว่ากลุ่ม ปตท.จะเจรจากับคู่สัญญาต่างๆทั้งสถาบันการเงินเจ้าหนี้ และผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อหาทางออกร่วมกันเนื่องจากการถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราวในพื้นที่มาบตาพุดทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้ โครงการในกลุ่มของปตท.ที่ถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราวใน
พื้นที่มาบตาพุดมีทั้งสิ้น 25 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 1.3 แสนล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนในอัตรา 1:1 อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้ถอด 7 โครงการของกลุ่มปตท.ออกจากการถูกระงับการลงทุนแล้ว ขณะที่กลุ่มปตท.ยังอยู่ระหว่างยื่นคำร้องต่อศาลฯเพื่อขอเดินหน้าบางโครงการที่ไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนด้วย (Reuters)

AMATA เผยปี 52 ยอดขายที่ดินต่ำกว่า 300 ไร่, ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย
บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA) เผยยอดขายที่ดินในปี 52 ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 300 ไร่เล็กน้อย หลังลูกค้ามีปัญหาทางเทคนิคทำให้ต้องเลื่อนเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินมาเป็นปีนี้แทน "ยอดขายเราต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เล็กน้อยประมาณ 30-40 ไร่ เนื่องจากลูกค้าขอเลื่อนการเซ็นสัญญามาเป็นปีนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากปัญหาของลูกค้าแต่ยังยืนยันที่จะซื้อแน่นอน" นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ AMATA กล่าว เขา กล่าวย้ำว่า ในปี 52 จะมีกำไรสุทธิลดลงจากปี 51 ตามยอดขายที่ดินที่ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มียอดขายที่ดินกว่า 800 ไร่ ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถประเมินยอดขายที่ดินในปีนี้ได้เพราะขึ้นกับความชัดเจนของปัญหาการเมือง และปัญหาการระงับโครงการในมาบตาพุด หากสถานการณ์ไม่เลวร้าย และสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ ก็จะเป็นปีที่ดีของบริษัท แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองและมาบตาพุด ยังไม่มีความชัดเจน ก็อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะหากนักลงทุนญี่ปุ่นขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนในไทยก็อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท (Reuters)

INOX - ประธาน"พอสโก"เผยใกล้ได้ข้อสรุปผลเจรจาเทคโอเวอร์"ไทยน๊อคซ์"
นายลี ดอง-ฮี ประธานบริษัทพอสโก ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่อันดับ 4 ของโลก กล่าวกับ"รอยเตอร์"ว่า ทางบริษัทจะสรุปผลการเจรจาควบกิจการกับบมจ.ไทยน๊อคซ์ สแตนเลส (INOX) ในไม่ช้า ขณะที่การเจรจากำลังดำเนินไปด้วยดี (Reuters)

STEEL คาดการรวมกิจการกับ"โซล่า เพาเวอร์"จะแล้วเสร็จพ.ค.-มิ.ย.53
บมจ.สตีล อินเตอร์เทค(STEEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นหลังคาเคลือบขึ้นลอนคุณภาพสูงและเหล็กแปหลังคา คาดการควบรวมกิจการกับบริษัทโซล่า เพาเวอร์จะแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.-มิ.ย.53 "กระบวนการทุกอย่างในการควบรวมกับโซล่า เพาเวอร์ จะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้ โดยหุ้นเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้น จะขายให้ผู้ถือหุ้นของโซล่าฯ ทั้งหมด" นายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ STEEL ในปี 53 บริษัทยังตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปัจจุบัน โซล่า เพาเวอร์ มีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 แห่งและได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งที่ 1 ซึ่งจะดำเนินงานในเดือนมี.ค.53โดยตั้งอยู่ที่จ.นครราชสีมา มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 6 เมกกะ
วัตต์ ส่งขายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ทั้งจำนวน (Reuters)

AS จะรุกตลาดเกมออนไลน์มากขึ้นในเวียดนาม, มองรายไดัปี 53 ดีขึ้น
บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) ซึ่งทำธุรกิจเกมออนไลน์ มีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรในเวียดนามในปีนี้ เพื่อขยายตลาดมากขึ้น ขณะที่มองเห็นโอกาสที่มูลค่าตลาดเกมออนไลน์จะโตมากกว่าในไทยซึ่งขณะนี้อยู่ที่ราว 2 พันล้านบาท ผู้บริหาร AS ยังคาดรายได้ปีนี้ดีกว่าปีก่อน เพราะคาดหวังตลาดในเวียดนามช่วยหนุนรวมถึงยอดขายในสิงคโปร์และมาเลเซียจะกลับมาฟื้นตัว (Reuters)

ธนาคารกสิกรไทยพร้อมช่วย PTT-SCG ยืดหนี้มาบตาพุด และมั่นใจสินเชื่อปีนี้โต 7-9%
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า กรณีที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัท เอสซีจี เคมีคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จะดำเนินการหารือกับธนาคารต่างๆ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายหลังได้รับผลกระทบจากการชะลอโครงการในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจาในเรื่องดังกล่าว แต่หากบริษัทต้องการเข้ามาปรับโครงสร้างจริง เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา (ข่าวหุ้น)

ความเห็น
คาดว่าธนาคารเจ้าหนี้ทั้งหมดจะช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ ผลกระทบจากประเด็นมาบตาพุดจะเกิดขึ้นเกือบทั้งกลุ่มธนาคารเนื่องจากโครงการในมาบตาพุดเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการกู้เงินแบบซินดิเคทโลนกับธนาคารหลายแห่ง ดังนั้น คาดว่าจะมีการร่วมกันปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้หลายแห่งเพราะธนาคารเองไม่ต้องการให้มี NPL ขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามาอยู่แล้ว และหากการปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จลง จะทำให้หนึ้ส่วนนี้ไม่มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็น NPL ในอนาคต

คุณภาพลูกหนี้ยังไม่น่ากังวลมาก แต่อาจมีผลต่อ Loan Yield ของกลุ่มธนาคารบ้างหากปรับดอกเบี้ยลงมา การเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ก่อนของกลุ่ม PTT และ SCG จะทำให้ยังไม่ต้องจัดชั้นลูกหนี้ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อการจัดชั้นเชิงคุณภาพบ้างตามที่เคยให้ความเห็นในปีก่อนก็ตาม การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะทำให้กลุ่มลูกหนี้มีเวลาแก้ปัญหา หรือหาทางออกในเรื่องความขัดแย้งกับกม.สิ่งแวดล้อม ผลกระทบด้านลบ
ที่จะเกิดต่อธนาคารอาจมีบ้างหากกลุ่มลูกหนี้ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสั้นๆ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย (Loan Yield) จากลูกหนี้กลุ่มนี้ลดลงในปี 2010

ความเสี่ยงทางการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เรามองว่าประเด็นมาบตาพุดยังไม่น่ากังวลมาก แต่อาจมีผลลบต่อ Sentiment ในการซื้อขายบ้าง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางการเมืองอาจมีผลอยู่เพราะความชัดเจนเรื่องนี้ตอ้ งอาศัยความต่อเนื่องทางการเมืองช่วยแก้ปัญหาด้วย ดังนั้น เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเป็น “Neutral” ไว้ก่อนเหมือนเดิม จนกว่าจะมีสัญญาณบวกจากปัจจัยนี้

Resource: BSEC Research

1 ความคิดเห็น: